5 เรื่องน่ารู้ ก่อนทำเมโสหน้าใส (Meso therapy) ช่วยลดรอยสิวได้จริงหรือ?

หากพูดถึงปัญหารอยสิว หลุมสิว จุดด่างดำจากสิว เชื่อว่าคนเป็นสิวทุกคนคงเคยผ่านมาก่อน บางคนเป็นแล้วหาย แต่บางคนก็ยังมีปัญหารอยสิวหรือแผลเป็นจากสิวมาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่คนเราต่างพยายามเสาะแสวงหาครีมลดรอยสิว หรือตัวช่วยต่างๆเพื่อแก้ปัญหาผิวหน้าที่เกิดขึ้น และ "เมโสหน้าใส" คือ หนึ่งในตัวช่วยนั้น ว่าแต่เมโสหน้าใสช่วยลดรอยสิวได้จริงหรือ? ทำแล้วเจ็บมั๊ย? มีผลข้างเคียงหรือเปล่า? 5 เรื่องน่ารู้ก่อนทำเมโสหน้าใสนี้ จะช่วยตอบข้อสงสัยให้ครับ

1. รอยสิว ฝ้า กระ เมโสช่วยได้

สรรพคุณหลักของเมโสหน้าใส คือ ช่วยแก้ปัญหาผิวเบื้องต้น พวกรอยดำจากสิว จุดด่างดำ ฝ้า กระ ผิวหน้าหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ด้วยการฉีดสารบำรุงในกลุ่ม Whitening เช่น วิตามินซี , คอลลาเจน , อาร์บูติน เข้าไปยังชั้นผิวเมโสหรือผิวชั้นกลาง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ช่วยลดการสร้างเม็ดสีทำให้รอยสิว จุดด่างดำจากสิวจางลง ฝ้ากระก็เช่นเดียวกัน เมโสหน้าใสช่วยให้จางลงได้ แต่เหมาะกับฝ้ากระแบบตื้นๆเท่านั้น ถ้าเป็นแบบลึกเมโสหน้าใสคงช่วยไม่ได้

2. เจ็บแต่ทนได้

เวลาเราอ่านประสบการณ์ หรือคำโฆษณาตามคลินิก มักบอกเราว่าการทำเมโสหน้าใสไม่เจ็บ เพราะมีการฉีดยาชาให้ก่อนทำ แต่ถ้าใครเคยฉีดจริงจะรู้เลยว่าถึงจะฉีดยาชาแต่ตอนฉีดก็ยังรู้สึกได้ ตอนปักเข็มคงไม่เจ็บเท่าไร แต่ตอนฉีดสารเข้าไปมันจะรู้สึกแสบเล็กน้อย อารมณ์เหมือนตอนที่เราไม่สบายไปหาหมอแล้วหมอฉีดยาที่ก้นหรือต้นแขนให้ประมาณนั้น ถามว่าเจ็บมั้ย? ผมว่าเจ็บนะแต่ทนได้ ไม่ถึงกับต้องร้องเจ็บโวยวาย บางคนฉีดยาชาแค่ครั้งแรกที่ทำ พอครั้งต่อไปยาชงยาชาไม่ต้อง ทำความสะอาดหน้าเสร็จฉีดเมโสต่อเลยก็มี เรื่องนี้คงแล้วแต่ความแข็งแกร่งของแต่ละคนจริงๆ

3. ฉีดครั้งเดียวก็เห็นผล

อย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่าเมโสหน้าใสเป็นการฉีดสารบำรุงเข้าไปใต้ผิวโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้าหรือคลื่นความถี่ผลักเข้าไป ดังนั้นมันจึงเห็นผลรวดเร็ว ฉีดครั้งเดียวก็เห็นความแตกต่าง จุดด่างดำ ฝ้า กระจางลง เพียงแต่ว่ามันไม่ได้ดีขึ้นชั่วข้ามคืน ต้องใช้เวลาหลังฉีดอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์จึงจะเห็นผล แต่หลายคนอาจสงสัย ทำไมบางที่ฉีดเข็มเดียว บางที่ฉีดหลายเข็ม อันนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวหน้าที่เป็นคุณภาพของสารที่ฉีด การผสมสารของแต่ละที่ และเทคนิคของหมอแต่ละคนครับ แต่ละที่จะมีสูตรเป็นของตัวเอง

4. ผลข้างเคียงต่ำ

การทำเมโสหน้าใสเป็นเทคนิคการลดจุดด่างดำจากสิวที่มีความเสี่ยงต่ำ เพราะสารที่ฉีดเข้าไปเป็นสารที่ร่างกายมีอยู่แล้ว อาการแพ้หรือผลข้างเคียงจึงมีน้อยมาก แต่ยังไงซะใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้นเลย คนผิวแพ้ง่ายก็ยังมีความเสี่ยงอยู่บ้าง ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่น หน้าแดงแสบหน้า ผิวลอก รอยเข็มสีแดงคล้ายผื่น แต่ส่วนใหญ่แล้วอาการที่ว่าจะหายไปภายใน 1 สัปดาห์ สภาพผิวจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ

5. คนเป็นสิวก็ทำเมโสได้

คำถามที่หลายคนสงสัย เป็นสิวอยู่ทำเมโสหน้าใสได้มั้ย? คำตอบคือทำได้ การทำเมโสไม่กระตุ้นให้สิวขึ้น สารที่ฉีดเข้าไปเป็นวิตามินหรือสารบำรุงซึ่งดีต่อผิวพรรณอยู่แล้ว เพียงแต่ถ้าทำเมโสหน้าใสตอนที่ยังเป็นสิวอยู่อาจไม่ค่อยคุ้มค่า เพราะเราทำเมโสเพื่อต้องการลดรอยแดง รอยดำจากสิว ok รอยเก่าอาจหาย แต่สิวยังไม่หายรอยดำใหม่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอด สรุปฉีดเสร็จหน้าก็ยังเป็นรอยสิวเหมือนเดิม จะให้ดีผมว่ารักษาสิวให้หายหรือให้น้อยลงสักหน่อยก่อน แล้วค่อยไปฉีดเมโส น่าจะตอบโจทย์และคุ้มค่าเงินที่ต้องเสียไปมากกว่าครับ

เมโสหน้าใสเป็นตัวช่วยลดรอยแดง รอยดำ จุดด่างดำจากสิวที่น่าสนใจ ช่วยให้รอยสิวจางลงได้จริง แต่ก็คงไม่ได้ทั้งหมด ถ้าเป็นแผลเป็นหรือหลุมสิวการทำเมโสจะไม่ได้ผล โดยรวมแล้วผมมองว่าเมโสหน้าใสเหมาะกับคนที่มีปัญหารอยสิวเล็กๆน้อยๆ คนที่มีปัญหาฝ้ากระแบบบางๆ หรือคนที่อยากให้หน้าดูกระจ่างใสขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าหน้ามีปัญหาเยอะควรใช้วิธีอื่นรักษาจะเหมาะกว่าครับ