ว่ากันว่าการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ คือวิธีรักษาที่ได้ผลมากที่สุด ไม่รู้จริงแท้แค่ไหน แต่จากที่ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาหลุมสิวมา ผมเห็นด้วยกับคำพูดนี้ แต่คงไม่ใช่กับเลเซอร์ทุกตัว เลเซอร์มีหลายแบบ แต่ละแบบใช้แก้ปัญหาผิวหน้าแตกต่างกันออกไป แต่ถ้าพูดถึงเลเซอร์รักษาหลุมสิวที่เป็นความหวังของคนเป็นหลุมสิวทุกคน "E-matrix" คือ เลเซอร์ตัวนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย
E-matrix คือ อะไร?
E-matrix เป็นเลเซอร์รักษาหลุมสิวประเภท Fractional คือ เลเซอร์ที่ทำให้เกิดรูขนาดเล็กจำนวนมากบนผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลาเจนใหม่ในชั้นหนังแท้ ช่วยรักษาปัญหาผิวหน้าที่แก้ไขได้ยาก เช่น ปัญหาริ้วรอยลึก ฝ้า กระ และปัญหาหลุมสิว โดยสิ่งที่ทำให้เกิดการกระตุ้นคอลลาเจนของเลเซอร์ E-matrix นั้นคือ คลื่น RF (Radio Frequency) ซึ่งเป็นคลื่นที่สามารถทะลุทะลวงเข้าไปยังชั้นหนังแท้ ที่ความลึก 1,000 ไมครอน ซึ่งเป็นความลึกที่สามารถกระตุ้นการสร้างเซลผิวใหม่ ช่วยแก้ปัญหาหลุมสิวได้จริงวิธีทำ E-matrix
- เช็ดทำความสะอาดผิวหน้า
- มาส์กหน้าด้วยยาชา ทาทิ้งไว้ประมาณ 30-40 นาที รอให้ยาชาออกฤทธิ์
- เช็ดยาชาออก และเป่าผิวหน้าให้แห้งสนิท เพราะถ้าหน้าไม่แห้งเครื่อง E-matrix จะไม่ทำงาน
- หมอไล่ยิงเลเซอร์ไปตามตำแหน่งที่เป็นหลุมสิว จุดไหนที่เป็นหลุมสิวลึกหมอจะยิงย้ำเพิ่มให้
- ในระหว่างยิงจะมีผู้ช่วยคอยประคบเย็นให้ตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหน้า burn มากเกินไป
- หลังยิงเลเซอร์ E-matrix เสร็จ ประคบเย็นทั่วหน้าอีกครั้ง
- จ่ายตังค์ รับครีมบำรุงผิวกลับบ้าน
ระยะเวลาพักฟื้นหน้า
ไม่เกิน 1 สัปดาห์สะเก็ดหลุด แต่จะเห็นว่าหลุมสิวตื้นขึ้นชัดเจนหลังจากทำ 3 เดือนขึ้นไป
ความถี่ในการทำ E-matrix
ห่างกันแต่ละครั้งประมาณ 4-6 สัปดาห์ หรือประมาณเดือนถึงเดือนครึ่ง
การดูแลผิวหน้าหลังทำ
สามารถล้างหน้าทาครีมได้ตามปกติ ควรทาครีมบำรุงหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อไม่ให้ผิวแห้งกร้าน และทาครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไป ทุกครั้งเมื่อต้องออกนอกบ้านตอนกลางวัน เพราะช่วงแรกหลังจากทำ E-matrix หน้าจะไวต่อแสงมากขึ้น
ข้อดีของ E-matrix
- ไม่ต้องพักฟื้นนาน เนื่องจากคลื่น RF ที่ส่งผ่านมีลักษณะเป็นพีระมิด ทำให้เกิดการ burn ที่ผิวด้านบนน้อย และกระจายเป็นวงกว้างที่ผิวชั้นล่าง หลังทำผิวด้านบนจึงเกิดสะเก็ดแผลเพียงเล็กน้อย ไม่ต้องพักฟื้นนานเหมือนเลเซอร์หลุมสิวบางตัว
- ตรวจสอบผลการยิงได้ เครื่องเลเซอร์ E-matrix เป็นเครื่องที่มีความทันสมัยมาก สามารถตรวจสอบได้ว่าคลื่น RF ที่ยิงลงไปในแต่ละครั้ง ได้ผลมากน้อยแค่ไหน สามารถตรวจจับเพื่อปรับความเหมาะสมขอความแรงคลื่นได้ ช่วยให้การยิงแต่ละช็อตมีประสิทธภาพมากขึ้น
- ช่วยให้หลุมสิวตื้นได้จริง ถ้าเป็นเครื่องแท้ และเป็นหลุมสิวไม่ลึก หรือเพิ่งเป็นไม่นาน จะเห็นผลการรักษาดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
- ช่วยกระชับผิวหน้าได้ด้วย E-matrix ช่วยรักษาหลุมสิว และกระชับผิวหน้าไปพร้อมกัน เป็นความสามารถที่เลเซอร์ตัวอื่นทำไม่ได้
ข้อเสียของ E-matrix
- ราคาสูงมาก ส่วนใหญ่คิดราคาเหมาเป็นช็อต 100 , 200 , 600 ช็อต ราคาตั้งแต่ 12,000 - 50,000 บาท
- ต้องยิงมากกว่า 1 ครั้ง สำหรับคนที่เป็นหลุมสิวมานาน ถึงจะช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้ ยิงอย่างน้อย 3-5 ครั้ง
คงไม่ใครบอกได้ว่า E-matrix เป็นเลเซอร์รักษาหลุมสิวที่ดีที่สุดในตอนนี้หรือเปล่า ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งเรื่องลักษณะหลุมสิว ความยาวนานที่เป็น เครื่องมือ และความชำนาญของแพทย์ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบที่ช่วยให้การรักษาสิว มีผลลัพธ์แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าถามความคิดเห็นส่วนตัวของผม ผมมองว่า E-matrix เป็นเลเซอร์รักษาหลุมสิวที่น่าลงทุนด้วยมากตัวหนึ่ง ทำแล้วช่วยให้หลุมสิวดีขึ้นได้แน่นอน แต่ต้องเลือกที่ทำที่ไว้ใจได้หน่อย รับรองไม่ผิดหวังครับ
EmoticonEmoticon